สร้างโอกาสให้น้องเรียนรู้
"วิชาชีพ วิชาชีวิต"
ใน Zero Dropout

หากคุณเป็นแฟนคลับ ที่ติดตามแสนสิริเป็นประจำเสมอ
น่าจะยังคงจำกันได้ดีกับโครงการ “Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน”
ภารกิจที่เรามุ่งมั่นให้เด็กไทยมีโอกาสได้เรียนและกลับคืนสู่ระบบการศึกษา โดยเริ่มต้นที่ อำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี เป็นโมเดล

และจากที่เราได้ลงไปสัมผัสโรงเรียนต่างๆ ในพื้นที่ดังกล่าว พบว่าในหลายโรงเรียนมีทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมด้านอาชีพให้กับนักเรียนเป็นจำนวนมาก เนื่องจากพื้นที่นั้นเป็นส่วนที่ติดกับชายแดนเมียนมาร์ จึงเป็นเหตุให้มีเด็กชาติพันธุ์มากมาย ประกอบกับครอบครัวมีฐานะยากจน ส่งผลให้เด็กบางคนไม่สามารถเรียนจบในการศึกษาภาคบังคับได้ เพราะต้องช่วยพ่อแม่รับจ้างเพื่อหาเงินมายังชีพในครอบครัว

หนึ่งในกิจกรรมย่อยที่ช่วยเติมเต็มในโครงการ Zero Dropout เด็กทุกคนต้องได้เรียน คือส่งเสริมประสบการณ์ทักษะอาชีพให้กับเด็กนักเรียน ในอำเภอสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี ที่แสนสิริได้สนับสนุนพื้นที่ในการออกร้านขายอาหารในงานคอนเสิร์ต Season of Love Song ที่ เวเนโต้ สวนผึ้ง จำนวน 10 ร้าน ให้กับเด็กนักเรียนใน 10 โรงเรียน

“มีขนม มีน้ำ มีข้าวไข่เจียว ลูกชิ้น พี่ๆ มาช่วยอุดหนุนพวกหนูด้วยนะคะ”

เสียงแจ้วๆ ตะโกนแข่งกับเสียงดนตรีในเทศกาลงาน ของเหล่าเด็กๆ ที่เชิญชวนเรียกลูกค้า ให้อดใจไม่ไหวที่จะต้องเข้าไปช่วยอุดหนุนร้านค้าและอาหาร ที่น้องๆ เตรียมมาอย่างแข็งขันมากมาย ทั้ง ขนม น้ำ ข้าวไข่เจียว ข้าวราดกระเพรา ลูกชิ้นทอด น้ำสมุนไพรแก้กระหาย หรือขนมตะโก้ ขนมวุ้นมะพร้าว

ZERO DROPOUT เด็กทุกคนต้องได้เรียน-แสนสิริ-นักเรียนไทย-นักเรียน

แม้ท่าทางในตอนแรกๆ ของเด็กจะมีความเคอะเขินบ้าง แต่รู้สึกได้ถึงความตั้งใจหยิบจับอาหารและใส่ถุงเพื่อยื่นให้กับลูกค้า แลกกับเงินหรือรายได้ที่กำลังเริ่มต้นขึ้น ประสบการณ์เหล่านี้ถือเป็นการเรียนรู้ในรูปแบบ Active Learning ผ่านการลงมือปฏิบัติจริง เรียนรู้การทำงานร่วมกัน ฝึกการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า การคิดคำนวนต้นทุน กำไร ขาดทุน ทักษะต่างๆ เหล่านี้จะทำให้นักเรียนสนุก เกิดการจดจำได้ดีกว่าการเรียนในตำรา

นอกจากเด็กๆ ได้รับประสบการณ์จากการขายในวันนั้นแล้ว รายได้ส่วนหนึ่งจากการขายจะเป็นเงินออมให้กับนักเรียนเพื่อซื้ออุปกรณ์การเรียนของพวกเขาในอนาคตต่อไป…

ถึงตอนนี้ หลายคนอาจเคยได้ยินชื่อ แต่เราอยากบอกเล่าถึงเป้าหมายของโครงการอีกครั้งว่า โครงการ “Zero Dropout: เด็กทุกคนต้องได้เรียน” ไม่ได้เพียงแค่อยากมอบอาหารกลางวันให้เด็กๆ เท่านั้น แต่เรามีเป้าหมายที่จะทำให้เด็กทุกคนได้เรียน 100% และทำให้จำนวนเด็กที่หลุดจากการศึกษาเป็น “ศูนย์” ให้ได้

แสนสิริได้ร่วมกับ กสศ. ระดมทุนกว่า 100 ล้านบาทจากหุ้นกู้ และนำไปแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาอย่างยั่งยืน โดยเริ่มตั้งแต่การสนับสนุนอุปกรณ์การเรียน ค่าใช้จ่ายของนักเรียน สนับสนุนครูและโรงเรียน ไปจนถึงการมีส่วนสนับสนุนในการแก้ปัญหาเชิงโครงสร้างในระบบการศึกษา

โครงการ ​Zero Dropout เริ่มต้นที่จังหวัดราชบุรี ซึ่งจุดเริ่มต้นนี้จะกลายเป็นโมเดลที่มีประสิทธิภาพ และถูกขยายไปแก้ไขปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาในจังหวัดอื่นๆ ต่อไป

CONTRIBUTOR

Related Articles

แสนสิริ กับ 18 ปี แห่งการสร้างรากฐานที่ยั่งยืน เพื่ออนาคตของเด็กทุกคน

SansiriSocialChange ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา แสนสิริไม่ได้เพียงแค่สร้างบ้าน แต่เรายังมุ่งมั่นในการสร้างรากฐานสังคมอย่างยั่งยืน ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนโครงการต่างๆ ร่วมกับพันธมิตร พร้อมส่งต่อโอกาสในด้านต่างๆ ทั้งสุขภาพ การศึกษา กีฬา และคุณภาพชีวิต เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและสร้างอนาคตที่ดีให้กับ “เด็กทุกคน”  กว่า 18 ปีที่ผ่านมา แสนสิริ ยืนหยัดและผลักดันในประเด็นของสิทธิเด็ก การยุติการใช้ความรุนแรง และการใช้แรงงานเด็ก

“แสนสิริ” เดินหน้า ZERO DROPOUT ชูโมเดลการศึกษา 1 โรงเรียน  3 รูปแบบ “เด็กทุกคนต้องได้เรียน” พัฒนาทุนมนุษย์เคลื่อนเศรษฐกิจ

“แสนสิริหวังว่าโครงการ ZERO DROPOUT เด็กทุกคนต้องได้เรียน นำร่องที่จังหวัดราชบุรี จะจุดประกายให้เห็นกลไกการเปลี่ยนแปลงการศึกษา ขยายผลนำไปใช้ทั่วประเทศ” เพราะทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพ ถือเป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและธุรกิจ ดังนั้นการสร้าง “ความเสมอภาคทางการศึกษา” ทำให้เด็กไม่หลุดจากระบบการศึกษา เติบโตเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณภาพของประเทศ จึงเป็นเรื่องที่ทุกภาคส่วนต้องให้ความสำคัญและเข้ามามีส่วนร่วม โดยบริษัทแสนสิริ จำกัด (มหาชน) หนึ่งในผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ แถวหน้าของไทย ได้ผลักดันสร้างความเสมอภาคทางการศึกษามาอย่างต่อเนื่อง

ZERO DROPOUT เด็กทุกคนต้องได้เรียน

ZERO DROPOUT เพราะการศึกษาที่มีคุณภาพ คือสะพานสู่ความฝัน

ปัจจุบัน จังหวัดราชบุรีมีนักเรียนระดับการศึกษาภาคบังคับจำนวน 127,266 คน ในจำนวนนี้เป็นนักเรียนยากจนพิเศษ อยู่ในครัวเรือนที่มีรายได้เฉลี่ยไม่เกิน 3,000 บาท ต่อคนต่อเดือน 3,258 คน คิดเป็น 2.56 % สาเหตุดังกล่าวทำให้ครอบครัวไม่สามารถสนับสนุนค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องในการไปโรงเรียนได้ จึงทำให้เกิดปัญหาใหญ่ตามมา คือมีเด็กที่หลุดระบบการศึกษาและเสี่ยงหลุดระบบการศึกษาเกิดขึ้น โจทย์ดังกล่าวทำให้แสนสิริ องค์กรในภาคเอกชนที่ทำกิจกรรมเกี่ยวกับการส่งเสริมเด็กและเยาวชน ร่วมมือกับกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา